การรมยา (Fumigation)
หมายถึง การใส่สารรมเข้าไปในโครงสร้างโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการกำจัดศัตรูพืช โดยอาศัยปฏิกิริยาของสารรม (Fumigant) ที่เข้าทำลายสิ่งมีชีวิตขณะที่อยู่ในสถานะที่เป็นแก๊สภายในโครงสร้างที่มิดชิดและสามารถกักเก็บแก๊สได้โดยไม่มีการรั่ว

วัตถุประสงค์ของการรมยา
- เพื่อลดความเสี่ยงของโรคและศัตรูพืชเข้าสู่ประเทศ
 - เพื่อกำจัดแมลงศัตรูผลิตผลการเกษตร “มิไช่เพื่อป้องกันการเข้าทำลายซ้ำของแมลงศัตรูพืช”
 
สารรม (Fumigant)
หมายถึง สารเคมีซึ่งเมื่ออยู่ในอุณหภูมิและความดันที่เหมาะสมจะอยู่ในสถานะเป็นแก๊สและสามารถคงสภาพความเป็นแก๊สอยู่ได้ หากความเข้มข้นและเวลาเหมาะสมจะสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตได้
ปัจจุบันยาอบมอดที่นิยมใช้งานกันในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ชนิดเม็ด และชนิดน้ำ ที่มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
- สารรมชนิดเม็ด เป็นที่นิยมใช้ในโกดังข้าว ถังไซโล และคลังสินค้าเกษตร โดยสารออกฤทธิ์คือ ฟอสฟีน (PH3) ที่ได้จากการทำปฏิกิริยาระหว่างสารประกอบฟอสไฟด์ เช่น อะลูมิเนียมฟอสไฟด์ (Aluminium phosphide; AIP) หรือแมกนีเซียมฟอสไฟด์ (Magnesium phosphide; Mg3P2) กับความชื้นในอากาศหรือจากตัวสินค้า
ข้อดี :- ใช้งานง่าย สามารถใช้รมได้ทันที
 - ก๊าซแทรกซึมได้ดี กระจายตัวได้รวดเร็วและทั่วถึง
 - ไม่มีพิษตกค้าง
 - ไม่กระทบต่อความงอกของเมล็ดพันธุ์
 - ต้นทุนต่ำ
 
ข้อจำกัด :
- ใช้ระยะเวลารมยานาน (5-7 วัน)
 - เป็นสารที่ติดไฟได้ ต้องควบคุมความปลอดภัยระหว่างใช้งาน
 
 - สารรมชนิดน้ำมีสารออกฤทธิ์คือ เมทิลโบรไมด์ (Methyl bromide; CH3Br) ซึ่งต้องใช้ร่วมกับหม้อต้มก๊าซ (Vaporizer) เพื่อแปลงเมทิลโบรไมด์ที่อยู่ในรูปของเหลวให้กลายเป็นก๊าซ แทรกซึมและออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว
เมทิลโบรไมด์ นิยมใช้ในกรณีที่ต้องรมยาตู้คอนเทนเนอร์ และสินค้าเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นไม้ที่ต้องผ่านมาตรฐาน ISPM 15 เช่น ไม้พาเลท ลังไม้ ที่ต้องมีเครื่องหมาย IPPC แสดงว่าได้ผ่านกระบวนการรมยาตามข้อกำหนดสากล
นอกจากนี้เมทิลโบรไมด์ยังเป็นสารรมยาหลักที่ใช้กับสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย โดยต้องเป็นไปตามระบบ AFAS (Australian Fumigation Accreditation Scheme) ภายใต้การควบคุมของ DAFF (Department of Agriculture, Fisheries and Forestry) ประเทศออสเตรเลีย เพื่อรับรองว่าการรมยาในประเทศต้นทางมีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานออสเตรเลีย และไม่ต้องรมยาซ้ำเมื่อสินค้าถึงปลายทาง
ข้อดี :
- ใช้ระยะเวลารมยาสั้น
 - ไม่ลุกติดไฟ
 - ใช้รมพืชที่ยังมีชีวิตได้ แต่ต้องใช้ในอัตราที่เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด
 
ข้อจำกัด :
- ทำให้เมล็ดพันธุ์เสื่อมความงอก
 - ไม่สามารถใช้ได้กับสินค้าบางประเภท เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินค้า เช่น ความงอกของเมล็ดพันธุ์ กลิ่นและสีของผลิตผล
 - เป็นสารควบคุมภายใต้พิธีสารมอนทรีออล (Montreal Protocol) ต้องใช้โดยผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
 
 
NEEDAWAN ให้บริการรมยาสำหรับ สินค้า หรือ บรรจุภัณฑ์ไม้ ตามมาตรการของแต่ละประเทศต่างๆ
พร้อมออกเอกสารรับรองตามข้อกำหนด โดยทีมงานมืออาชีพที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานกรมวิชาการเกษตรสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
089-815-7124 คุณกฤษฏา อันนูอาร์
081-172-5478 คุณสมฤดี อันนูอาร์

